เลื่อนขึ้น
ทัวร์ถูก ทัวร์เกาหลี ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ต่างประเทศ ทัวร์ดี ทัวร์ราคาประหยัด ทัวร์ทั่วโลก ทัวร์ราคาถูก ทัวร์ราคาประหยัด ทัวร์บริการดี ทัวร์บริการประทับใจ ทัวร์ดีมีคุณภาพ

 5 สถานที่บนเกาะฮอกไกโด ที่ต้องไปเยือนให้ได้
 2017-06-07 11:32:19 | อ่าน 42,427 ครั้ง



5 สถานที่บนเกาะฮอกไกโด ที่ต้องไปเยือนให้ได้

1.นกกระเรียน  ที่อุทยานแห่งชาติคุชิโระชิสึเงน(Kushiro Shitsugen National Park หรือ Kushiro Marshland) ได้ถูกกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติของฮอกไกโดในปี 1987 เพื่อรักษาพื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างเมืองคุชิโระ(Kushiro) และอุทยานแห่งชาติอะกัง(Akan National Park) โดยสามารถเข้าถึงได้จากทั้ง 2 ทาง ในช่วงฤดูหนาวหิมะตกไม่มากนัก เป็นสถานที่สำหรับชมนก ธรรมชาติ และมีเส้นทางเดินป่าที่สามารถชมนกกระเรียนได้ตลอดทั้งปี
ขอบคุณภาพจาก www.tuku.cn
นกกระเรียนญี่ปุ่น(Tancho หัวแดง) เคยถูกล่า และทำลายที่อยู่อาศัยจนคิดว่าได้สูญพันธุ์ไปจากญี่ปุ่นแล้ว แต่ในปี 1926  ได้พบกลุ่มนกกระเรียนประมาณ 20 ตัว บริเวณหนองน้ำที่อยู่รอบๆ Kushiro และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจนในปัจจุบันนกได้เพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่า 1,000 ตัวแล้ว นอกจากนั้นอุทยานยังมีจุดชมวิวอีกหลายจุด เป็นอันว่ามาที่เดียวได้สัมผัสธรรมชาติกันแบบคุ้มเลยทีเดียว
www.yurukaze.com

วิธีเดินทาง
เครื่องบิน
Kushiro Airport ตั้งอยู่นอกเมือง สามารถบินตรงมาจากโตเกียวสนามบินฮาเนดะ(Haneda Airport) ซัปโปโรสนามบินชินชิโตเสะ(Shin-Chitose Airport) และสนามบินโอคาดามะ(Okadama Airport)แล้วนั่งรถบัสจากสนามบินคุชิโร(50 นาที 940 เยน)

รถไฟ
จากซัปโปโรโดยสารรถไฟ JR Super Ozora Limited Express ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 9,000 เยน สามารถใช้ JR pass และ Hokkaido Rail Pass ได้ หรือซื้อตั๋วพิเศษไปกลับ R-Kippu ราคา 16,500 เยน

รถบัสประจำทาง
จากซัปโปโรมีรถบัสออก 2 รอบ คือกลางวัน และกลางคืน (6 ชั่วโมง 5,770 เยน)

รถยนต์
Kushiro ตั้งอยู่ถนนสาย 38 ใช้เวลาเดินทางจากซัปโปโร 6 ชั่วโมง โดยขับไปยัง Yubari ผ่านทาง Chitose จาก Yubari ใช้ถนนสาย 274 ไปทางทิศตะวันออก 90 กิโลเมตร จนถึงทางแยกถนนสาย 38 ที่ Shimizu จากนั้นขับต่อไปอีก 150 กิโลเมตร ผ่าน Obihiro ก็จะถึง Kushiro


2.ธารน้ำแข็งลอยบนทะเล 

ในประเทศญี่ปุ่น มีปรากฏการณ์ธารน้ำแข็งลอยบนทะเล Okhotsk (โอะโฮสึคุ) ซึ่งอยู่ตอนบนสุดของประเทศในช่วงเดือนมกราคมจนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี และจะมีให้ชมมากที่สุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

ขอบคุณภาพจาก japanbook.net


ทัวร์ชมธารน้ำแข็งต่างๆมักจะเริ่มต้นที่เมือง Abashiri(อะบะชิริ) และเมือง Monbetsu(มอมเบทสุ) ซึ่งสามารถเดินทางไปยังเมือง Abashiri ได้ด้วยรถบัสวิ่งตรงจากสนามบิน Memanbetsu(เมมัมเบทสุ) ไปลงที่ท่าเรือตัดหิมะ “Drift Ice Breaker Terminal” เพียง 40 นาที หรือเดินทางไปเมือง Monbetsuโดยบินไปลงที่สนามบิน Okhotsk Monbetsu แล้วนั่งรถชัทเทิลบัสต่อเข้าเมืองเพียง 12 นาที

ฮอกไกโดเป็นจุดที่อยู่ต่ำที่สุดของซีกโลกเหนือที่มีธารน้ำแข็งปรากฏให้เห็น ดังนั้นเมื่อคุณก้าวขึ้นเรือท่องเที่ยวพิเศษเพื่อชมธารน้ำแข็ง หากโชคดี คุณอาจจะได้เห็นสัตว์ทะเลที่มาจากฝั่งทะเลตอนเหนือ อาทิเช่น อินทรีย์ทะเลสเตลเลอร์ (Steller’s Sea Eagle) และแมวน้ำลายจุด (Spotted Seal) ด้วย

ขอบคุณภาพจาก www.animalpicturesociety.com


อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ -10 องศาเซลเซียส อุปกรณ์เพื่อป้องกันความหนาวจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืนที่อากาศยิ่งหนาวมากขึ้น และมีลมทะเลมาปะทะคุณได้โดยตรงบนดาดฟ้าเรือ


3.ทะเลสาบออนเนโตะ (Lake Onneto) ทะเลสาบที่เปลี่ยนสีได้ตามช่วงเวลา ถึง 5 สี โดยจะเริ่มจากช่วงปลายเดือนกันยายน และสวยที่สุดในเดือนตุลาคม.

ทะเลสาบออนเนโตะเป็นส่วนหนึ่งของสวนอุทยานแห่งชาติอะคันในอะโชโระ ฮอกไกโด ออนเนโตะหมายถึงบ่อเก่าแก่หรือบ่อขนาดใหญ่ในภาษาไอนุ ทะเลสาบดังกล่าวมีเส้นรอบวง 2.5 กิโลเมตร ได้ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อแม่น้ำได้พังทะลายลงจากการระเบิดของภูเขาไฟมีอะคันเดเกะ เนื่องจากทะเลสาบที่นี่มีความเป็นกรดสูงดังนั้นปลาจึงไม่สามารถอาศัยอยู่ได้

ขอบคุณภาพจาก retrip.jp

แต่ซาลาแมนเดอร์อีโซะและกุ้งน้ำจืดสามารถอาศัยอยู่ได้ เนื่องจากพื้นน้ำที่สวยงามของทะเลสาบออนนิโตะที่สามารถเปลี่ยนสีจากสีฟ้าไปเป็นสีเขียวและสีน้ำเงินเข้มในช่วงเวลาต่าง ๆ ของวันหรือตามฤดูกาล ดังนั้นทะเลสาบแห่งนี้จึงถูกเรียกว่า Goshikinuma  เช่นเดียวกับทะเลสาบโอโคปันเปะ และทะเลสาบชิโนโนเมะ ทะเลสาบแห่งนี้เป็นหนึ่งในสามของทะเลสาบที่มีความลึกลับของฮอกไกโด ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ที่นี่จึงมีเส้นทางเดินธรรมชาติและบริเวณตั้งแคมป์มากมายตามริมฝั่งทะเลสาบ

ขอบคุณภาพจาก matome.naver.jp

บริเวณด้านตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลสาบ 800 เมตร จะมีน้ำตกที่มีความสูง 300 เมตร ที่มีชื่อว่า น้ำตกออนเนโตะ น้ำตกแห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์เพราะว่าประกอบด้วยออกไซด์ของแมงกานีส ที่นี่จึงเป็นอนุสรณ์ธรรมชาติที่สำคัญและได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยของสถานที่ที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาของญี่ปุ่น ดังนั้นคุณควรมาเยี่ยมชมที่นี่ถ้าคุณมาออนเนโตะ

การเดินทาง

การเดินทางโดยรถไฟ: จากสถานี  R Kushiro ให้ขึ้นรถบัสเพื่อไปยังสถานีขนส่ง Akanko bus terminal และลงที่ป้ายสุดท้าย จากที่นั่นใช้เวลา 20 นาทีโดยใช้แท็กซี่

การเดินทางโดยรถยนต์: ใช้ทางเชื่อม Ashoro IC ของทางด่วน Doto Expressway

4.ทะเลสาบชิคะริเบตสึ ฮกไกโด (Shikaribetsu) 

ขอบคุณภาพจาก forums.ski.com.au

ทะเลสาบชิคะริเบตสึ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง ในช่วงฤดูหนาวทะเลสาบแห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ และในช่วงฤดูหนาวนี้เขาจะสร้างหมู่บ้านน้ำแข็งบริเวณริมทะเลสาบชิคะริเบตสึ โดยจะมีการทำอิกลู บ้านแบบเอสกิโม และมีบาร์ที่ทำจากน้ำแข็ง ให้เราได้เข้าไปเที่ยวชม

ขอบคุณภาพจาก jpninfo.com

นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นแบบกลางแจ้งท่ามกลางหิมะ ซึ่งการได้มาแช่น้ำร้อนท่ามกลางความหนาวเย็นนั้นขอบอกว่ามันสบายตัวมากๆ หลังจากนั้นก็ไปนอนหลับสบายบนเตียงน้ำแข็งในอิกลู

ขอบคุณภาพจาก www.hokkaidolikers.com

5.Blue Pond สระน้ำสีฟ้าสดใส
ชื่อของบ่อสีฟ้ามาจากสีน้ำที่มีแร่ธาตุทำปฏิกิริยาหลังจากเกิดการประทุของภูเขาไฟ Tokachidake สระสีฟ้านี้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญหลังการสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันการเกิดโคลนถล่มจากภูเขาไฟบริเวณใกล้เคียงที่ได้ระเบิดไปแล้วครั้งหนึ่ง

ขอบคุณภาพจาก by-s.me

สีของน้ำเป็นสีน้ำเงินโดยเมื่อสะท้อนกับแสงแดดและบรรยากาศโดยรอบยิ่งน้ำเงินหรือเขียวมรกตมากยิ่งขึ้น น้ำส่วนที่ถูกกั้นออกจากเขื่อนกักเก็บรวมกันจนเกิดเป็น Blue Pond ในทุกวันนี้ โดยปัจจุบันยังไม่อาจอธิบายถึงที่มาของสีฟ้าของน้ำได้แน่ชัด แต่จากการตรวจสอบพบแร่ธาตุอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ในน้ำซึ่งสะท้อนให้เห็นความยาวคลื่นที่สั้นกว่าของแสงสีฟ้าเช่นเดียวกับชั้นบรรยากาศโลก

ขอบคุณภาพจาก travel.nationalgeographic.com

การเดินทางมายัง Blue Pond

การเดินทางมาเที่ยวชม Blue Pond จึงสามารถมาได้โดยรถยนต์ส่วนตัว การเช่ารถขับมา และรถบัสเท่านั้น โดยเส้นทางรถบัส เปลี่ยนต่อมาจากเส้นทางรถไฟระหว่างสถานี Biei Station และ Shirogane Onsen ให้หยุดลงที่สถานี Shirogane Aoiike Iriguchi โดยมี 5 รอบต่อวันเท่านั้น ถ้านั่งมาจากสถานี Biei ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง และค่าตั๋วราคาประมาณ 600 เยน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เช่ารถขับ ห่างจากสถานี Biei มาประมาณ 20 นาที แต่ถ้าไม่ได้ขับรถเอง บริษัท JR Hokkaido มีให้บริการ Twinkle Bus ที่พาเที่ยวตามจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆ อย่างทุ่งลาเวนเดอร์ และที่ Blue Pond แห่งนี้ด้วย การจองรถTwinkle Bus สามารถจองได้ที่ JR-Hokkaido ทุกสถานี